The year of the cat ของ Al Stewart
"ปีของแมวเหมียว"
เพลงนี้เป็นเพลงดังข้ามกาลเวลา ของ Al Stewart (อ่านว่า อัล สจ๊วต นะครับ ไม่ใช่ สตีเวิต) ซึ่งแต่งไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 และเป็นเพลงหนึ่งซึ่งฟังเมื่อไรก็ได้ ฟังแล้วสบายใจไปกับเสียงดนตรีที่สบายใจ ไหลลื่น และสดใสจริงๆ เพลงนี้ผู้แปลได้อ่านดูจากหลายๆ เพจที่แปลความหมายเพลง ปรากฎว่าแปลออกไปหลายหลายความหมาย ว่ากันไปต่างๆ นาๆ ครับ บ้างก็ว่าหมายถึงปีแห่งความโหดร้าย บ้างก็ว่าผู้แต่งเพลงสมมติเหตุการณ์ในปี 1975 ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น หรือเป็นปีที่ใช้แทนสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือไม่มีวันเกิดขึ้น บางท่านเชื่ออย่างจริงๆ จังๆ ว่าต้องเป็นเรื่องที่มีนัยเกี่ยวกับสงครามเวียตนามแน่นอน และอะไรอีกต่างๆ นาๆ ซึ่งก็ว่ากันไม่ได้ เพราะเป็นไปตามจินตนาการและความเข้าใจของผู้แปลหรือผู้ฟังแต่ละท่าน ซึ่งเหตุเกิดจากผู้แต่งเพลงนี้เขียนเพลงออกมาแบบเล่าเรื่องราวกำกวม บอกความหมายไม่ชัดเจนที่อาจจะแปลหรือสื่อความหมายได้แบบนั้นจริงๆ
แล้วเจตนาจริงๆ ของผู้แต่งเพลงนี้เพื่อสื่อถึงอะไรครับ ?
อย่างที่ผู้แปลบอกอยู่บ่อยๆ ครับว่า เพลงในยุค 70's นี้ ส่วนมาจะแปลความหมายตรงๆ ตามเพลงไม่ค่อยได้ เนื่องจากเป็นยุคแห่งความเพ้อฝัน จินตนาการ ยาเสพติด และการค้นหาสัจธรรมในชีวิต เพราะคนแต่งสื่อความหมายตามความคิดของเขาเอง และหวังให้คนฟังคิดตามเขาให้ได้ แต่ปรากฏว่่าคนฟังคิดตามไม่ทัน เพราะไม่เข้าใจความหมายเขาจะสื่อ เลยไปกันคนละทิศละทางเลยครับ
เพลงนี้ถ้าแค่ฟัง จะรูึสึกว่าเนื่อเพลงไพเราะ รื่นหู มีสัมผัสในเนื้อเพลงอย่างสวยงาม แต่พอมาอ่านเนื้อเพลงเข้าจริงๆ กลับรู้สึกแปลกๆ ไม่ปะติดปะต่อกัน บางช่วงก็เขียนแบบยกเอาเหตุการณ์หรือบุคคลอื่นมาอ้างอิง ซึ่งผู้ฟังต้องนึกตามให้ทันว่าเหตุการณ์ หรือบุคคลนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งถ้าผู้ฟัง เกิดไม่ทันยุคนั้นๆ หรือไม่ทันบุคคลเหล่านั้นก็เท่ากับฟังเพลงไม่เข้าใจความหมายของผู้แต่งซะแล้ว เช่น Bogart และ Peter Lorre เป็นต้น ซึ่งเป็นคนดังมาตั้งแต่ช่วงยุค 60's นั่นเลยครับ แต่รุ่นเราๆ นี้คงรู้จักกันไม่กี่คนแล้ว
จริงๆแล้ว พอแปลละเอียดจึงรู้เนื้อหาว่า ในเนื้อเพลงพูดถึงนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง กับสาวคนหนึ่ง ที่เกิดมาเจอกันด้วยความบังเอิญ และเกิดความเสน่หาแบบรักฉับพลัน เลยไปมีสัมพันธ์กันในคืนนั้น และตื่นเช้ามาอยู่ด้วยกันจนนักท่องเที่ยวคนนั้น "ตกทัวร์" ไม่สามารถไปกับคณะที่มาได้... เนื้อเพลงมีแค่นั้นเองจริงๆ ผู้แปลเลยสงสัยว่ามีอะไรที่ยังเป็นสิ่งที่ผู้แต่งต้องการสื่ออีกไหม และได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของ Al Stewart และ Peter Wood ผู้แต่งเพลงนี้ถึงที่มาที่ไปของเพลงนี้ซะเลยให้หายสงสัย ปรากฏว่าได้ใจความสำคัญดังนี้ครับ
"เพลงนี้เป็นเรื่องเล่าสนุกๆ ไม่ได้สื่อความหมายอะไรเป็นพิเศษ แค่ต้องการเล่าเรื่องให้ฟังว่า เรื่องราวเกี่ยวกับ นักท่องเที่ยวหนุ่มคนนึงกับสาวฮิปปี้ที่มาจากแดนไกลอีกคนหนึ่ง หนุ่มนักท่องเที่ยวหลงเสน่ห์สาวนางนี้ จึงอยู่ค้างคืนด้วยจนถึงเช้า จนทำให้ต้องตกรถทัวร์ และพลาดการเดินทางของเขาต่อไป"
มันก็แค่นี้เองจริงๆ ครับ
อ้าว แล้วคำว่า "The year of the cat" มาจากไหน ????
Al Stewart และ Peter Wood เฉลยว่า ตอนที่แต่งเพลงจบแล้ว หาคำสร้อยลงในเนื้อเพลงลงท้ายไม่ได้ จึงเว้นไว้ก่อน และมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชื่อเพลงนี้น่าสนใจ เพราะเนื้อเพลงก็ดูธรรมดา เลยอาจไม่เป็นที่สนใจของผู้ฟัง แล้วจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะเอาสัตว์ที่เป็นนักษัตร ตามปีนั้น คือปี ค.ศ.1975 มาเป็นชื่อเพลงเพื่อให้เป็น Trademark ของปีที่แต่งเพลงนี้ แต่คิดไปคิดมาอยู่นานก็มาลงที่ แมว สาเหตุเพราะปี 1975 นั้น สัตว์ตามปีนักษัตรของเวียตนาม คือ แมว ซึ่งตรงกับ ปีเถาะ ของไทย จึงเป็นที่มาของเนื้อเพลงที่เป็นคำสร้อยในเพลงว่า "In the year of The Cat " เหมือนกับต้องการจะบอกว่า เหตุการณ์ในเพลงนี้ เกิดขึ้นในปีแมวเหมียว 1975 นี้เอง
ซึ่งทั้งสองคนผู้แต่งเห็นว่าแปลกดี เลยเอามาเป็นชื่อเพลงซะเฉยๆ เลย โดยไม่ได้มีเจตนาสื่อความหมายอื่นใด และลงท้ายเนื้อเพลงทุกท่อนด้วยคำว่า "The year of the cat" ซึ่งผู้แปลเห็นว่าไม่มีคำแปลใดจะเหมาะสมในการแปลเท่ากับคำว่า "ปีของแมวเหมียว" จึงขอใช้คำนี้ในการแปลเพลงท่อนนี้นะครับ
ก็ช่างคิดช่างสรรหาจริงๆ นะครับ ตามแนวเพลงยุค 70's เลย ถ้าไม่บอกมา คนฟังแบบเราๆ คงตามไม่ทันที่เขาสื่อให้คิดจริงๆ
แสดงว่าที่ผ่านมานี้ คนฟังทั้งหลายนี่ "มโน" กันไปหมดเลยซะงั้น !
ลองดู MV เพลงนี้ประกอบจะเข้าใจครับ เพราะ เดินเรื่องตรงตามเนื้อหาในเพลงเลย แต่รู้สึกนางเอกในนี้จะดู...... ไปหน่อยครับ... 555
ลองมาอ่านเนื้อเพลงแปดูนะครับ ว่าอ่านแล้วถ้าไม่รู้จักดารา หรือสถานที่ตามที่ผู้แปลบอก จะงงขนาดไหน ส่วนไหนที่จำเป็นต้องขยายความ ผู้แปลจะแทรกไว้ตรงย่อหน้านั้นเช่นเคยนะครับ
On a morning from a Bogart movie
In a country where they turn back time
You go strolling through the crowd like Peter Lorre
Contemplating a crime
She comes out of the sun in a silk dress running
Like a watercolour in the rain
Don't bother asking for explanations
She'll just tell you that she came
In the year of the cat
ในเช้าวันหนึ่งที่บรรยากาศคล้ายกับภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย Bogart**
ในเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งเหมือนเป็นสถานที่ๆ เวลาย้อนกลับไป
คุณกำลังเดินเปะปะเข้าไปในฝูงชนเหมือน Peter Lorre**
ที่กำลังครุ่นคิดว่าจะก่ออาชญากรรมอะไรสักอย่าง
แล้ว...หล่อนก็ปรากฎตัวขึ้นกลางแสงแดดในชุดผ้าไหมแนบเนื้อสวยงาม
มันเป็นภาพที่พร่าเลือนเหมือนภาพวาดสีน้ำในสายฝน
อย่าพยายามถามเพื่อให้ได้ความกระจ่างใดๆ จากเธอ
เธอจะบอกคุณได้แค่ว่า.....
เธอมาจาก "ปีของแมวเหมียว....."
** Bogart คือ Humphrey Bogart ดาราดังในช่วงยุค 60's ส่วนมากรับบทเป็นพระเอก ประมาณน้าแอ๊ด สมบัติ เมทินี บ้านเรา
** Peter Lorre ก็เป็นดาราดังในยุคเดียวกับ Bogart แต่รับบทเป็นดาวร้ายเสียส่วนใหญ่ ประมาณเป็นลุงดามพ์ ดัสกร ที่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าตัวโกงแน่ๆ
ภาพยนตร์ที่เพลงนี้กล่าวถึงคือ Casablanca เพราะดาราทั้ง 2 เล่นด้วยกัน โดย Bogart เป็นพระเอก และ Lorre เป็นดาวร้ายตามฟอร์มครับ
She doesn't give you time for questions
As she locks up your arm in hers
And you follow 'till your sense of which direction
Completely disappears
By the blue tiled walls near the market stalls
There's a hidden door she leads you to
These days, she says, I feel my life
Just like a river running through
The year of the cat
เธอไม่ได้ปล่อยโอกาสให้คุณได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น...
เพราะเธอได้ "ล๊อคแขน" คุณ และเกาะกุมจนแน่นซะแล้ว
แล้วเธอก็พาคุณเดินวกไปวนมา จนคุณหลง จำทางที่มาไม่ได้
แล้วเธอก็จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ "หายไป" อย่างสมบูรณ์
ตรงกำแพงกระเบื้องสีน้ำเงิน ใกล้กับตลาดแผงลอย
เธอได้พาคุณไปยัง "ประตูลับ" ที่ซ่อนอยู่ตรงนั้น
"ทุกวันนี้" เธอพูดขึ้น "ชีวิตฉันช่างเหมือนกับสายน้ำที่ไหลผ่าน
ปีของแมวเหมียว....."
Well, she looks at you so cooly
And her eyes shine like the moon in the sea
She comes in incense and patchouli
So you take her, to find what's waiting inside
The year of the cat
เธอมองจ้องคุณอย่างชื่นชม
และดวงตาเธอส่งประกายดั่งเงาจันทร์ในท้องทะเล
เธอมาพร้อมกับกลิ่นหอมเย็นของพิมเสน
แล้วคุณก็อดใจไม่ได้ ที่จะพาเธอไปเพื่อค้นหาว่าอะไรที่รออยู่
ในปีของแมวเหมียว...
Well, morning comes and you're still with her
And the bus and the tourists are gone
And you've thrown away the choice and lost your ticket
So you have to stay on
But the drum-beat strains of the night remain
In the rhythm of the new-born day
You know sometime you're bound to leave her
But for now you're going to stay
In the year of the cat
จวบจนรุ่งเช้าของวันใหม่ คุณก็ยังคงอยู่กับเธอ
รถทัวร์ที่พาคุณมา พร้อมกับคณะ ตอนนี้ไปไหนแล้วไม่รู้
คุณเลือกที่จะทิ้งการเดินทางที่คุณซื้อตั๋วมา
คุณก็ต้องอยู่ที่นี่ซะแล้ว....
แต่ทว่า ความตื่นเต้นของคุณ ราวกับ เสียงกลองกระหน่ำเมื่อคืนยังคงไม่สร่างซา ราวกับว่าเป็นจังหวะเดียวกันกับการเริ่มต้นของวันใหม่
คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งคุณต้องจากที่นี่ และจากเธอไป
แต่ในวันนี้ ตอนนี้ คุณขอเลือกที่จะมีความสุขอยู่กับเธอ
ในปีของแมวเหมียว.......
https://www.youtube.com/watch?v=vqmdG2iNaxE** เครดิต ผมก็อปมาจากเพจนี้ครับ อาจารณ์โอ๋ ตามไปอ่านกันได้นะ
" ความหมายในบทเพลงจากกาลเวลา By 'จารย์โอ๋ "https://www.facebook.com/pg/sewatasai/posts/?ref=page_internal